

การปฏิบัติด้านแรงงาน
หลักการดำเนินงานของโอสถสภา
โอสถสภาตระหนักดีว่าพนักงานเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุดต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและความสำเร็จขององค์กร โอสถสภาดำเนินแนวปฏิบัติด้านแรงงานโดยยึดตามมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับ ได้แก่ อนุสัญญาหลักขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO Core Conventions), หลักการชี้แนะแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UN Guiding Principles on Business and Human Rights) และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights)
บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เป็นธรรม และเปิดกว้างสำหรับพนักงาน คู่สัญญา และแรงงานในห่วงโซ่อุปทาน โดยให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรี ความเท่าเทียม และคุณภาพชีวิตของแรงงานในทุกช่วงของการจ้างงาน บริษัทฯ ยังส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านการฝึกอบรม การเติบโตในสายอาชีพ และการพัฒนาภาวะผู้นำ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ร่วมมือและเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างมีความรับผิดชอบ บริษัทฯ จะจัดให้พนักงานได้รับคำปรึกษาจากผู้แทนบริษัทฯ และผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงจัดให้มีการแจ้งล่วงหน้าในระยะเวลาที่กำหนดตามกฎหมายเป็นอย่างน้อย ก่อน การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก
หลักการและมาตรฐานด้านแรงงานนี้ยังครอบคลุมไปถึงพนักงานสัญญาจ้าง คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ โดยระบุไว้ใน “แนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้า” Supplier Sustainability Code of Conduct) ของบริษัทฯ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการดำเนินงานด้านแรงงานและสวัสดิการแรงงานอย่างเหมาะสมตลอดห่วงโซ่อุปทาน
โอกาสที่เท่าเทียมกัน
โอสถสภาดำเนินนโยบายไม่เลือกปฏิบัติในทุกกระบวนการด้านทรัพยากรบุคคลและให้โอกาสที่เท่าเทียมกันในการว่าจ้าง การแต่งตั้งและโยกย้ายตำแหน่งงานพิจารณาจากความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่ง โดยปราศจากอคติในด้านเชื้อชาติ เพศ สัญชาติ ศาสนา ความพิการ หรือสถานภาพสมรส
อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงาน
บริษัทฯ จัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย และส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่พนักงานทุกคน ผ่านกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงรุก และการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน
โอสถสภาเคารพในความเป็นส่วนตัวของพนักงาน โดยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เงินเดือน ประวัติสุขภาพ และสถานภาพครอบครัว จะได้รับการปกป้อง และเปิดเผยเฉพาะเมื่อมีข้อบังคับทางกฎหมายเท่านั้น
ค่าตอบแทน
โอสถสภามีนโยบายด้านค่าตอบแทนที่มั่นใจได้ว่าพนักงานได้รับค่าจ้างในระดับที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการครองชีพ และไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด สามารถจูงใจและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ บริษัทฯ จะการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนโดยเท่าเทียมระหว่างเพศ สำหรับงานที่มีมูลค่าเท่ากัน รวมถึงให้สิทธิรับค่าจ้างเต็มจำนวนในวันหยุดประจำปีและวันหยุดตามกฎหมาย
ชั่วโมงการทำงาน
โอสถสภาปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้องกับชั่วโมงการทำงานสูงสุดและระยะเวลาพักอย่างเคร่งครัด บริษัทฯ มีมาตรการเพื่อลดชั่วโมงทำงานล่วงเวลาที่มากเกินไป และพนักงานทุกคนมีสิทธิได้รับวันหยุดประจำสัปดาห์และประจำปีไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีช่วงพักที่เหมาะสม
การไม่ใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับ
โอสถสภายึดมั่นในสิทธิของแรงงานในการเลือกทำงานโดยสมัครใจ และมีนโยบายห้ามการใช้แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก หรือรูปแบบอื่นใดของการบังคับขู่เข็ญ การล่วงละเมิด หรือความรุนแรงในการจ้างงานอย่างเด็ดขาด
ผลการดำเนินงาน
สัดส่วนพนักงานทั้งหมดจำแนกตามเพศ 2567
ตัวชี้วัดความหลากหลาย | ร้อยละ (0-100%) | เป้าหมายที่เปิดเผยสู่สาธารณะ |
---|---|---|
สัดส่วนผู้หญิงในพนักงานทั้งหมด (คิดเป็นร้อยละของพนักงานทั้งหมด) | 44.61 | 40 |
สัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งบริหารทั้งหมด รวมทั้งระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง (คิดเป็นร้อยละของตำแหน่งบริหารทั้งหมด) | 54.00 | 50 |
สัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งบริหารระดับต้น หรือระดับการบริหารขั้นแรก (คิดเป็นร้อยละของตำแหน่งบริหารระดับต้นทั้งหมด) | 55.67 | 50 |
สัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งบริหารระดับสูง โดยอยู่ห่างจาก CEO สูงสุดไม่เกินสองระดับ หรือในตำแหน่งที่เทียบเท่า (คิดเป็นร้อยละของตำแหน่งบริหารระดับสูงทั้งหมด) | 44.44 | 50 |
สัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งบริหารฝ่ายที่สร้างรายได้ (เช่น ฝ่ายขาย) คิดเป็นร้อยละของผู้จัดการทั้งหมดในฝ่ายดังกล่าว (ไม่รวมฝ่ายสนับสนุน เช่น ฝ่ายบุคคล, ไอที, ฝ่ายกฎหมาย ฯลฯ) | 43.40 | 50 |
สัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับ STEM (คิดเป็นร้อยละของตำแหน่ง STEM ทั้งหมด) | 52.52 | 50 |
ตัวชี้วัดด้านค่าตอบแทนระหว่างเพศ 2567
ระดับพนักงาน | ค่าตอบแทนเฉลี่ยของผู้หญิง | ค่าตอบแทนเฉลี่ยของผู้ชาย |
---|---|---|
ระดับผู้บริหารระดับสูง (เฉพาะเงินเดือนพื้นฐาน) | 858,050 | 832,393 |
ระดับผู้บริหารระดับสูง (เงินเดือนพื้นฐาน + สิ่งจูงใจเป็นเงินสดอื่น ๆ) | 887,217 | 864,893 |
ระดับบริหาร (เฉพาะเงินเดือนพื้นฐาน) | 176,202 | 205,474 |
ระดับบริหาร (เงินเดือนพื้นฐาน + สิ่งจูงใจเป็นเงินสดอื่น ๆ) | 183,423 | 213,920 |
ระดับพนักงานทั่วไป (เฉพาะเงินเดือนพื้นฐาน) | 30,151 | 22,929 |
สัดส่วนพนักงานทั้งหมดจำแนกตามสัญชาติ 2567
การจำแนกตามสัญชาติ | สัดส่วนในพนักงานทั้งหมด (คิดเป็น % ของพนักงานทั้งหมด) | สัดส่วนในตำแหน่งผู้บริหารทั้งหมด รวมถึงระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง (คิดเป็น % ของพนักงานระดับบริหารทั้งหมด) |
---|---|---|
ไทย | 90.4 | 95.33 |
เมียนมาร์ | 7.81 | 2 |
อินโดนีเซีย | 1.6 | 1 |
อื่น ๆ (ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สหราชอาณาจักร, อิตาลี) | 0.19 | 1.67 |

การจ่ายค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม
ค่าตอบแทนมีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ดังนั้น โอสถสภาจึงมีการวิเคราะห์และทบทวนกลยุทธ์ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการของพนักงานเป็นประจำทุกปี เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทชั้นนำอื่น ๆ อีกทั้งยังมีการพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างค่าจ้างและค่าตอบแทนกับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ และมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานได้รับค่าจ้างและค่าตอบแทนที่เหมาะสมเพียงพอ
บริษัทฯ มีการจัดสวัสดิการที่ครอบคลุมหลากหลาย อาทิ เงินเดือน โบนัส กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสุขภาพและประกันชีวิต ทุนการศึกษาสำหรับบุตรของพนักงาน เงินช่วยเหลือกรณีสมรสและคลอดบุตร เงินช่วยเหลืองานศพสำหรับพนักงานและครอบครัว ของขวัญสำหรับบุตรคนแรก รวมถึงสิทธิการลาหยุดประเภทต่าง ๆ
โอสถสภามุ่งมั่นในการดูแลให้พนักงานทุกคน ทั้งในบริษัทและบริษัทย่อยที่ดำเนินงานในทุกตลาด ได้รับค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ รวมถึงมีมาตรฐานในการบริหารค่าตอบแทน การบริหารผลงาน และการเลื่อนตำแหน่งภายในองค์กร ทั้งนี้ บริษัทใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการวิเคราะห์และติดตามอัตราการจ่ายค่าตอบแทนของเพศที่แตกต่างกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจถึงการจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกัน
ชั่วโมงการทำงาน การทำงานล่วงเวลา และสิทธิการลา
โอสถสภาปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายด้านแรงงานอย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องจำนวนชั่วโมงการทำงานสูงสุดและเวลาพักผ่อนที่เหมาะสม โดยมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการทำงานล่วงเวลาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งจัดให้พนักงานได้รับเวลาพักและวันหยุดประจำสัปดาห์ตามสิทธิอย่างครบถ้วน
บริษัทมีการติดตามและบริหารจัดการชั่วโมงการทำงานของพนักงาน รวมถึงการทำงานล่วงเวลาอย่างสม่ำเสมอ โดยมีระบบควบคุมที่ครอบคลุมทุกหน่วยงาน ได้แก่:
- ผู้จัดการสายงาน ได้รับการอบรมและสื่อสารอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการการทำงานล่วงเวลาของทีมงาน
- ฝ่ายทรัพยากรบุคคลประจำสายงาน (HRBP) สื่อสารโดยตรงกับพนักงานที่มีสิทธิทำงานล่วงเวลา เพื่อสร้างความเข้าใจและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
- การอบรมสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน จัดให้กับพนักงานทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในโครงการทำงานล่วงเวลา เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเข้าใจสิทธิของตนเอง
นอกจากนี้ โอสถสภายังให้ความสำคัญกับการบริหารสิทธิการลาของพนักงาน โดยติดตามและส่งเสริมให้พนักงานใช้สิทธิลาตามที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ ผู้จัดการสายงานได้รับการอบรมให้สื่อสารและสนับสนุนให้ทีมใช้สิทธิการลาอย่างเหมาะสม พร้อมกับการส่งอีเมลแจ้งเตือนถึงพนักงานทุกคนเป็นประจำ
การจัดตั้งคณะกรรมการสวัสดิการ
โอสถสภาส่งเสริมเสรีภาพในการสมาคมของพนักงานโดยการจัดตั้ง คณะกรรมการสวัสดิการ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพนักงาน 100% ทั่วทั้งองค์กร บทบาทหลักของคณะกรรมการฯ คือการสื่อสารและเจรจาแทนพนักงานกับบริษัทในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และการจัดทำมาตรการที่ส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน ความครอบคลุม และความเท่าเทียมในการปฏิบัติ คณะกรรมการสวัสดิการของบริษัทฯ มาจากการเลือกตั้งโดยพนักงาน โดยจะมีวาระ 2 ปี
ความพยายามดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานและยกระดับประสบการณ์ในสถานที่ทำงาน รวมทั้งสร้างความมั่นใจว่าบริษัทในฐานะนายจ้างได้มีการสื่อสารและหารือกับตัวแทนพนักงานอย่างสม่ำเสมอในเรื่องสภาพการทำงาน

การเลือกตั้งคณะกรรมการสวัสดิการชุดปัจจุบันประกอบด้วยกรรมการทั้งหมด 67 คน มาจากการเลือกตั้งซึ่งมีพนักงานเข้าร่วมการเลือกตั้งทั้งทางออนไลน์และณ จุดเลือกตั้ง เป็นผู้แทนพนักงานจากสำนักงานสาขา โรงงาน และบริษัทฯ ย่อยสำคัญของบริษัทฯ เช่น สำนักงานใหญ่สาขาหัวหมาก สำนักงานสาขาอยุธยา โรงงานกรีนส์วิล และโรงงานสยามกลาสอยุธยา เป็นต้น มีวาระในปี 2567-2568 โดยในปี 2567 มีการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น ความต้องการ และข้อเสนอแนะจากพนักงาน 4 ครั้งรายไตรมาส โดยได้มีการปรับปรุงสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ได้ประโยชน์แก่พนักงานทั่วทั้งองค์กร 100% ที่สำคัญ อาทิ
- เพิ่ม “สวัสดิการเท่าเทียม” สำหรับพนักงานเพศทางเลือกและมีความหลากหลาย สนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมกันภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น “เงินช่วยเหลือพิธีสมรส” และ “เงินช่วยเหลืองานศพของบุคคลในครอบครัว”
- จัดให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่พนักงานทุกคน นอกเหนือไปจากสวัสดิการรักษาพยาบาล
สวัสดิการและการคุ้มครองทางสังคม (Employee Well-being & Social Protection)
โอสถสภามุ่งมั่นในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นคงให้แก่พนักงาน ผ่านการมอบสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้พนักงานและครอบครัวมีความมั่นคงทั้งด้านสุขภาพ การเงิน และสังคม โดยมีมาตรการและสิทธิประโยชน์สำคัญดังนี้
1. สิทธิการลา (Leave Benefits)
- ลาคลอดบุตร: ตามกฎหมายให้สิทธิ 98 วัน และบริษัทจ่าย 45 วัน แต่บริษัทจ่ายเพิ่มเป็น 60 วัน เพื่อสนับสนุนการดูแลแม่และเด็กในช่วงเวลาสำคัญ
- ลาบวช: สนับสนุนพนักงานชายที่ต้องการอุปสมบทตามประเพณีไทย
- ลากิจส่วนตัว: จากที่กฎหมายกำหนด 3 วันต่อปี บริษัทเพิ่มสิทธิเป็น 7 วันต่อปี เพื่อให้พนักงานมีเวลาจัดการภารกิจส่วนตัวได้อย่างเพียงพอ
- ลาป่วย: ตามกฎหมายกำหนด 30 วันต่อปี และในกรณีป่วยหนัก บริษัทสนับสนุนเพิ่ม อีก 30 วัน
- ลาอุปการะบุตร: สนับสนุนการสร้างครอบครัวและการดูแลบุตรในช่วงแรกเริ่ม
2. การดูแลด้านสุขภาพ (Medical care & Well-being)
- สิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมด้านสุขภาพจิต (Mental Health)
- บริการ ให้คำปรึกษากับแพทย์ผ่านโทรศัพท์ ทั้งด้านสุขภาพกายและจิตใจ มีนัดหมายทุกวันพุธ
- ห้องพยาบาลในสถานที่ทำงาน มีแพทย์เฉพาะทางหมุนเวียนให้บริการในแต่ละวัน
- ตรวจสุขภาพประจำปี และ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกัน
3. สิ่งอำนวยความสะดวกในที่ทำงาน (Onsite Facilities)
- ห้องให้นมบุตร สำหรับคุณแม่พนักงาน
- ห้องละหมาด เพื่อรองรับความหลากหลายทางศาสนา
4. สหกรณ์ออมทรัพย์ (Employee Savings Cooperative)
โอสถสภาส่งเสริมการออมและการบริหารการเงินของพนักงาน ผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ยึดหลักการช่วยเหลือและพึ่งพากันภายในกลุ่ม เพื่อบรรเทาภาระทางการเงิน โดยมีบริการ เช่น ฝากเงินดอกเบี้ยสูง สินเชื่อฉุกเฉินสินเชื่อพิเศษ เงินช่วยเหลือในกรณีจำเป็น
5. สโมสรพนักงาน (Employee Club)
พื้นที่สำหรับส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ การออกกำลังกาย และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน
6. ทุนการศึกษาบุตรพนักงาน (Employee Children Education Support)
ตั้งแต่ปี 2519 โอสถสภามอบทุนการศึกษาแก่บุตรของพนักงานตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนถึงระดับปริญญาตรี เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและส่งเสริมโอกาสทางการเรียนรู้
7. การช่วยเหลือในภาวะวิกฤติ (Disaster Relief Assistance)
มอบความช่วยเหลือทั้งด้านเงินและสิ่งของให้แก่พนักงานที่ประสบภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ
8. เงินช่วยเหลือการสมรส (Marriage Assistance)
สนับสนุนพนักงานทุกเพศ โดยมอบเงินช่วยเหลือแก่พนักงานทั้งคู่สมรสต่างเพศและคู่สมรสเพศเดียวกัน เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายทางเพศ