

การพัฒนาทรัพยากรบุคคล
ผลการดำเนินงาน
การส่งเสริมการพัฒนาความสามารถของพนักงาน
การเสริมสร้างความสามารถของพนักงานเป็นส่วนสำคัญในการรองรับการเติบโตของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ บริษัทจึงมีแนวทางการดำเนินงานโดยมุ่งหวังให้พนักงานสามารถปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้จัดตั้ง OSP Academy ขึ้นเพื่อพัฒนาเพิ่มพูนทักษะและติดตามความสามารถของพนักงานเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยเน้นการเรียนรู้แบบผสมผสาน (70-20-10) ทั้งจากการฝึกอบรมภาคปฏิบัติ การเรียนผ่านระบบ e-Learning การฝึกสอน และการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงผ่านการลงมือปฏิบัติ นอกจากนี้ บริษัทยังส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านแอปพลิเคชัน OSP Life และ Development Impact Journey เพื่อสร้างทักษะที่จำเป็น พร้อมทั้งมุ่งพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานให้เอื้อต่อการแสดงศักยภาพของพนักงานอย่างเต็มที่
โดยปี 2567 บริษัทได้มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรผ่าน 6 หลักสูตร ได้แก่ 1) หลักสูตรพื้นฐาน (Fundamental Skill) 2) หลักสูตรเฉพาะด้าน (Functional Skill) 3) หลักสูตร Soft Skill 4) หลักสูตรเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการทำงานในอนาคต (Future Readiness) 5) หลักสูตรเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท (Business Acumen) และ 6) หลักสูตรความเป็นผู้นำ (Leadership)
ปี 2564 | ปี 2565 | ปี 2566 | ปี 2567 | เป้าหมาย ปี 2567 | |
---|---|---|---|---|---|
จำนวนชั่วโมงอบรมเฉลี่ยของพนักงาน | 13.00 | 18.56 | 19.29 | 29.56 | 18.00 |
ปี 2567 | |
---|---|
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ใช้ในการฝึกอบรม | - |
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ
โอสถสภาได้จัดการฝึกอบรบเพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงานทั้งในระดับหัวหน้างานและระดับปฏิบัติการ ซึ่งในปี 2566 มีโครงการที่สำคัญ ดังนี้
โครงการฝึกอบรม OSP Leadership Way
บริษัทได้จัดทำโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำให้แก่หัวหน้างานระดับ Head of/Specialist โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ด้านการบริหารบุคลากร เช่น การรับพนักงานใหม่ การประเมินผลการปฏิบัติงาน และการให้ผลตอบแทน รวมทั้ง พัฒนาทักษะการบริหารทีมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2567 มีผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างาน (Head of/Specialist) เข้ารับการอบรม 232 คน คิดเป็นร้อยละ 96 ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งโครงการนี้ช่วยสร้างผู้นำที่สามารถนำความรู้และเครื่องมือไปใช้ในการบริหารทีมได้อย่างมีประสิทธิผล พร้อมทั้งใช้หลักการ Feedback อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการรักษาและพัฒนาบุคลากรที่มีคุณค่าให้อยู่กับองค์กรอย่างยั่งยืน
ผลลัพธ์เชิงตัวเลข (Numeric or Measurable Outcomes)
- อัตราการลาออกของพนักงานระดับหัวหน้า (Head of Level) ลดลง ปี 2023: 15.9% ปี 2024: 14.3% >>ลดลง 1.6%
- คะแนนด้านความสามารถของผู้จัดการจากผลสำรวจ EES ปี 2024 อยู่ที่ 75% ซึ่งอยู่ในระดับ เป็นไปตามความคาดหวัง (Meet Expectation)
- การประหยัดงบประมาณด้านการพัฒนา โดยใช้วิทยากรภายใน:
- การฝึกอบรมสาธารณะที่มีต้นทุนเฉลี่ย 3,500 บาท/คน สำหรับผู้เข้าอบรม 190 คน ประหยัดงบประมาณได้ 665,000 บาท
- โครงการฝึกอบรม In-house จำนวน 6 ครั้ง คิดเป็นค่าใช้จ่ายครั้งละ 30,000 บาท รวม 180,000 บาท ประหยัดงบประมาณได้ 180,000 บาท
ผลลัพธ์ที่ไม่ใช่ตัวเลข (Non-Numeric / Side Benefits)
สามารถถ่ายทอดเนื้อหาในการบริหารคนในบริบทของ OSP โดยเฉพาะ (OSP Way) ไม่ใช่เพียงแนวทางทั่วไปในการบริหารคนเท่านั้น ทำให้เกิดความเข้าใจและการนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับบริบทองค์กร
โครงการฝึกอบรม Frontline Leader Program
บริษัทได้ดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพหัวหน้างาน (Lead) ให้เป็นผู้นำยุคใหม่ที่มีความสามารถทั้งในการบริหารงานและบริหารบุคลากร โดยมุ่งเน้นให้หัวหน้างานสามารถถ่ายทอดการปฏิบัติงานที่ถูกต้องและเข้าใจได้ชัดเจนสู่พนักงานระดับปฏิบัติการ เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้ง เพิ่มปริมาณผลผลิตขององค์กร โดยในปี 2567 มีผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างาน (Lead) เข้าร่วมการอบรม 122 คน คิดเป็น 100% ซึ่งผู้ร่วมโครงการสามารถนำความรู้ไปลดข้อผิดพลาดในองค์กร เหลือน้อยกว่า 10 เคสต่อปี พร้อมทั้งใช้หลักการ Feedback อย่างต่อเนื่องทุก 2 เดือน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบริหารทีมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ หัวหน้างานยังสามารถนำเสนอผลงานให้กับผู้บริหารได้ตามหลักการวิธีการนำเสนอตามโครงสร้างที่กำหนด
Osotspa Open House 2023

โอสถสภาเปิดบ้านให้กับน้องๆ คนรุ่นใหม่และบุคคลทั่วไปได้พบปะพูดคุยกับผู้บริหารมืออาชีพที่ฒโอสถสภา สำนักงานใหญ่ และโรงงานผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม (อยุธยา)
ในงานได้พบกับ Talk Session จากทีมผู้บริหารทุกสายงานที่มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ขององค์กรอายุกว่า 130 ปี
- Meet the CEO and Leaders โอกาสหายากในการพูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดกับ CEO เบอร์หนึ่งของบริษัทฯ และทีมผู้บริหารสายงานต่าง ๆ จากโอสถสภา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ วัฒนธรรม และเรื่องราวความท้าทายในการทำงานในธุรกิจ FMCG
- Fast-Track Job Application โอกาสที่จะได้รู้จักตำแหน่งงานต่าง ๆ ที่โอสถสภาเปิดรับ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งงานประจำหรือตำแหน่งนักศึกษาฝึกงาน และสามารถสมัครได้ก่อนใคร
- และกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พบปะเพื่อนใหม่ และความรู้อื่น ๆ อีกมากมาย ที่งาน OSOTSPA Open House
Internship (นักศึกษาฝึกงาน)

O-Interns 2023 (Osotspa Internship Program) โปรแกรมฝึกงานที่เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เข้ามาเรียนรู้ผ่านการทำงานจริงโดยมุ่งเน้นการทำโปรเจคที่น่าสนใจตลอดระยะเวลาในการฝึกงาน เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ พัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ โดยมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักศึกษาทุกคนจะได้นำเอาความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกงานไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคมต่อไปในอนาคต
พนักงาน
จำนวนแรงงานทั้งหมด
จำแนกตามสัญชาติ
การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน
การประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพพนักงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท ตลอดจนสร้างความโปร่งใสเป็นธรรม และสนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคงทั้งในระดับบุคคลและองค์กรเพื่อขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งบริษัทได้นำผลการประเมินการทำงานของพนักงานมาใช้ในการวิเคราะห์และกำหนดโครงการพัฒนาความสามารถของพนักงาน รวมถึงพิจารณากำหนดค่าตอบแทนอย่างเหมาะสม โดยการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ การบริหารผลการปฏิบัติงาน และการประเมินผลแบบทีม
(1) การบริหารผลการปฏิบัติงาน
บริษัทใช้ระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management System) เพื่อกำกับการทำงานของพนักงานให้บรรลุเป้าหมายองค์กร ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ ความก้าวหน้าในสายอาชีพ และการได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม การประเมินดำเนินการปีละ 2 ครั้ง ครอบคลุมพนักงานทุกระดับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีกระบวนการสำคัญ ได้แก่
- การตั้งเป้าหมายต้นปี (Objective Setting) เพื่อให้พนักงานใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานและพัฒนาตนเอง
- การทบทวนผลงานกลางปี (Mid-Year Review) ทบทวนผลการปฏิบัติงานในช่วงกลางปี และติดตามความคืบหน้า เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนด โดยมีกระบวนการสอนงานและการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ (Feedback) จากหัวหน้างานแก่พนักงาน
- การประเมินปลายปี (Performance Appraisal) เพื่อวัดผลสำเร็จและวางเป้าหมายใหม่
ช่องทางรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการประเมินผลงานพนักงานแบบเรียลไทม์
บริษัทสนับสนุนการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านการสื่อสารแบบเรียลไทม์ (Agile Conversations) ระหว่างหัวหน้างานและพนักงาน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงาน สิ่งที่ทำได้ดี จุดที่ควรปรับปรุง และการวางแผนพัฒนาสายอาชีพ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทุกเวลา ช่วยเสริมสร้างความสำเร็จในระดับทีมและองค์กร รวมถึงสนับสนุนการเติบโตของพนักงานอย่างยั่งยืน

(2) การประเมินผลแบบทีม
บริษัทได้จัดทำระบบประเมินผลการปฏิบัติงานแบบทีม (Team-based Performance Recognition) โดยกำหนดเป้าหมายทีมและถ่ายทอดสู่พนักงานรายบุคคล พร้อมกำหนดความรับผิดชอบที่ชัดเจน ระบบการประเมินเน้นการทำงานร่วมกันในทีม โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ ดังนี้
- ยอดขายรวมของทีม
- อัตราการเติบโตของยอดขายของทีม
- ประสิทธิภาพและพฤติกรรมในการทำงานของทีม
การประเมินครอบคลุมถึงพนักงานขาย โดยจัดทำเป็นประจำในรูปแบบรายไตรมาสและรายปี เพื่อให้มั่นใจถึงความสอดคล้องกับเป้าหมายและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของทีมและองค์กร
ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีแก่พนักงาน

บุคลากรกับการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล
โอสถสภานำแพลตฟอร์มดิจิทัลบนคลาวด์มาใช้ในกระบวนการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร หรือ O-In-1 พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงบริการนี้ได้จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ส่วนตัว โดยแพลตฟอร์มช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานในการจัดการงานส่วนบุคคลและทำงานร่วมกับทีม ผ่านเครื่องมือดิจิทัล นอกจากนี้ บนแพลตฟอร์มยังมีกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานและสร้างวัฒนธรรมการทำงานในเชิงบวก รวมถึงการมอบรางวัลและการยกย่องความสำเร็จของพนักงาน

โครงการ Fast Forward 10X
โครงการปรับเปลี่ยนองค์กรในหลายมิติ รวมถึงการจัดการด้านกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว คล่องตัว และการพัฒนาการบริหารบุคลากรให้มีทักษะความรู้หลายหลาย การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีความยืดหยุ่น ไม่หยุดเรียนรู้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

ความคล่องตัวในสถานที่ทำงาน
ด้วยข้อจำกัดในการเข้าปฏิบัติงานที่สำนักงาน โอสถสภาได้จัดให้มีแพลตฟอร์มพื้นฐานที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพ อันได้แก่ โปรแกรม MS Teams บริการ e-Form และการส่งคำขอใช้บริการต่าง ๆ หรือ Office Smart Service Request นอกจากนี้ สำหรับพนักงานที่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานที่สำนักงาน โอสถสภาได้จัดให้มีโต๊ะทำงานส่วนกลาง หรือ Hot Desk เพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและความปลอดภัย ส่งเสริมให้พนักงานมีความคล่องตัวในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่น
โอสถสภายังเปิดโอกาสให้มีการจ้างงานในหลากหลายรูปแบบเพื่อความคล่องตัวและยืดหยุ่น รวมถึงรองรับความต้องการที่แตกต่างของแต่ละบุคคลและลักษณะงาน

การปรับเวลาปฏิบัติงานอย่างยืดหยุ่น
โอสถสภากำหนดให้มีการยืดหยุ่นเวลาการปฏิบัติงานสำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานในสำนักงานตั้งแต่ปี 2561 เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการทำงาน สอดคล้องกับความจำเป็นแต่ละบุคคล สภาพการจราจร และค่านิยมขององค์กรด้านคุณธรรมและความรับผิดชอบ (Integrity) โดยยังคงรักษามาตรฐานการทำงานและความรับผิดชอบต่อหน้าที่ พนักงานสามารถบริหารจัดการเวลาปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับตนเองอย่างไร้ความกังวล ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ในขณะเดียวกันเพื่อให้พนักงานมีความปลอดภัยจากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้มีการปรับแนวทางให้พนักงานปฏิบัติงานจากบ้าน (Work From Home) ตามความเหมาะสมตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา โอสถสภาได้จัดอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานและแพลตฟอร์มพื้นฐานที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เก้าอี้ทำงาน โทรศัพท์มือถือ และช่องทางการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ สามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อีกด้วย

การดูแลบุตรหลานของพนักงาน
โอสถสภาช่วยแบ่งเบาภาระของพนักงานด้านการศึกษาของบุตร โดยมอบเงินช่วยเหลือการศึกษาให้แก่บุตรของพนักงาน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงระดับปริญญาตรี ตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา

ห้องให้นมบุตร
สุขอนามัยของคุณแม่และทารกเป็นสิ่งสำคัญ โอสถสภาจึงจัดห้องมิดชิด สะอาด ปลอดภัย ให้กับพนักงานหญิงเพื่อทำการเก็บน้ำนมโดยเฉพาะ

การทำงานแบบพาร์ทไทม์
เพื่อเป็นการตอบสนองกับรูปแบบการจ้างงานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ และความต้องการส่วนบุคคล โอสถสภาจึงเปิดให้มีการจ้างงานแบบ Part -time ซึ่งพนักงาน Part-time ถือเป็นการจ้างงานประเภทหนึ่งที่มีรูปแบบการทำงานไม่เต็มเวลาหรือการทำงานแบบยืดหยุ่น เป็นการตกลงระหว่างบริษัทฯ กับพนักงานเป็นรายบุคคล โดยมีสัญญาจ้างระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น วันและเวลาทำงานต่อสัปดาห์หรือต่อเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการ เป็นต้น